วันพุธ, กุมภาพันธ์ 13, 2551

PMM ไปเขาขาด รด. ปี 2


วันที่ 04-06 กุมภาพันธ์ 2551 ทางศูนย์ฝึกกำลังสำรอง มทบ.14 มีคำสั่งให้ไปเช้ารับการฝึก นศท. ที่ค่ายเขาขาดนะครับ(อยู่ใน มทบ.14 ชลบุรีแหละ) ไปเป็นผลัดที่สาม(แต่ทหารบอกผลัดแรก)

โรงเรียนผมก็ดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไม่เคยพูดถึงเลย แค่บอกว่าจะมีรถไปส่งก็ยังบอกไม่ได้ สุดยอดสุดๆ ดีที่เพื่อนมาส่งเพื่อนผ่านมาพอดีเลยถาม บอกรถออก 7.30 เพราะตามคำสั่งที่ศูนย์ฝึกส่งมา บอกให้ไป แปดโมง(ซึ่งประกาศนั้นต้องสแกนแจกกันเองอีก) เป็นอะไรที่สุดยอดที่สุด โรงเรียนผม


เช้าวันจันทร์ที่ 4 ละ ไปโรงเรียน 7.25 เลย ไปๆมาๆ รอจนแปดโมงรถถึงออก โรงเรียนพาซวยอีก พาไปค่ายสาย ก่อนไป ไอ้ครูผู้กำกับ(คือ ครูที่ดูเด็กอยู่โรงเรียน คอยทำเรื่อง นศท. ให้) บอกให้ใส่สายเก่ง+เข็มขัดสนาม ซึ่งผมก็ไม่มีซะอีก เข็มขัดสนามผมได้มาจากญาติอันโคตรเล็ก ยัดไม่เข้า เลยไปขอแลกเพื่อนที่ไปยืมของรุ่นพี่อ้วนๆมา ผมเลยใส่ได้ เสร็จแล้วไม่มีหรอก สายเก่ง ก็เอากระติกน้ำเสียบแล้วไปทั้งแบบนั้นเลย หวังว่าจะไม่เป็นไรนะ


ถึงค่าย เวลา ประมาณ 8.00 เช้า
ไม่มีไรมาก สี่งนศท.เข้าแถว แล้วแบ่งหมวดหมู่ซะงั้น แลกที่กันกระจายแล้วก็ตรวจกระเป๋าก่อนเลย โดยบอกให้เทกระเป๋าออกมา และชูเป๋าเปล่าขึ้น PMM ก็ทำตาม แถมยังสั่งยึดผ้าอนามัยของเพื่อนๆ กับกระดาษทิชชู่ทั้งหมด PMM เสียทิชชู่ไปหลอดนึง จากนั้นก็เก็บของ นั่งเช็คชื่อกันพัีกนึง ระหว่างนั้นมีคนมาขอแลกที่กับ PMM ก็เลยแลกไป ไปที่นั่นเจอกับเพื่อนที่มันเรียก PMM ว่าเนียน ไม่รู้มาจากไหน บางคนบอกหน้าเนียนก็งงอยู่ดี สิวเต็มหน้ามาบอกเนียน เพื่อนคนนั้นเสนอให้ยืมสายเก่งโดยไม่มีข้อผูกมัดหรือแลกเปลี่ยนใดๆทั้งสิ้น จิดใจดีงามจริงๆ PMM เลยรับไว้และมัดๆๆ เสร็จจบ จากนั้นกองกระเป๋าอะไรต่างๆนาๆไว้ที่แถว แล้วพาวิ่งไปรับปืนที่โกดัง น่าจะ M1 มั้งคุ้นๆ แล้วให้แยกไปฝึก โดยหมวดที่ PMM อยู่ต้องไปฐานฝึกกำลังใจก่อน เรียงๆ ไป อันแรกเป็นโหนราวเหล็ก ครูฝึกย้ำว่าไปแค่สามขั้นก็พอ อย่าฝืน แต่ PMM ไปขั้นเดียวแล้วลงเลย เมื่อย ต่อไปคือฐานทาซาน โหนเชือกข้ามหลุม PMM ล่อไปสามที ตกหมด ครูเลยให้โดดตบ 20 แล้วไล่ไปรอดลวดหนาม PMM ใช้เวลาลอดถึง 30 นาทีและทำกางเกงขาดด้วย รูเท่าเหรียญบาท ส่วนเพื่อนๆเลยไปสองฐานแล้ว ต่อไป PMM ไปฐานปีนกำแพง ซึ่งครูฝึกให้กระโดดตบ 20 และไล่ไปแบบอันโตมัติ และนี่คือนาทีลุ้นระทึก เป็นสะพานเชื่อกข้ามน้ำเขียวเขียวปี๋จริงๆ และค่อนข้างสูงด้วยจากสะพานลงไป แต่น้ำตื้นๆ ตอนข้ามมีสองทางให้เลือก คือเชือกเส้นเดียว กับสองเส้น PMM เลิอกสองเส้น ใช้เวลารออยู่นาน แต่ถ้าไปเส้นเดียวก็ไม่ไหวอีก ต้องข้ามแบบลิง ไม่ก็ค่อยๆกระดึบๆไป ไม่ก็ลงน้ำแล้วว่ายเลย มีคนเกือบตกน้ำตั้งหลายรอบ ในที่สุดก็ถึงคิว PMM วิธีของ PMM คือใช้กอดเชือกไว้ด้วยแขนทั้งสอง แล้วใช้แขนเสื้อ รด. ลากไปตามทาง สะดวกสุดๆไม่กลัวตกด้วย โอเคผ่าน (ไม่มีรูปให้ดู เพราะไม่ได้เอาอุปกรณ์ถ่ายภาพไปเลย)

เสร็จจากนั้นก็พัก มีพวกร้านค้ามาขายขนมตามแบบธรรมเนียมทหาร แต่ PMM ไม่หิว ระหว่างทางเจอหมวดที่ไปเล่นพรางหน้ามาก่อนแล้วด้วย น่าหนุกจริงๆ ต่อจากนั้นก็เป็นข้าวเที่ยงที่เหมือนกับจะให้ทหารเกณฑ์ อืมก็พอทานได้ อร่อยกว่าอาหารโรงเรียนของ PMM ละกัน

ต่อจากนั้นไม่นาน ก็ไปฐานอะไรไม่รู้จำไม่ได้ละ แล้วก็ไปที่ฐานการวางตำแหน่งหมู่ปืน ผมได้เบอร์ 11 ก็ต้องบอกว่า "11 พลปืนM203 ครับ!" ไม่มีไรมาก ขำๆ ตัดมาอีกทีที่จำได้คือ ฐานของไอ้อ้วนนนน บุคคลทำการรบในเวลากลางวันมั้ง จำชื่อไม่ได้ หนุกหนานมาก ก็ให้โผๆๆ ไปตามถังต่างๆ(บอกให้นึกเอาว่าเป็นโคนต้นไม้) แล้วก็คลานสูง(ท่าหมา) จากนั้นก็คลานต่ำ เหนื่อยนิดหน่อย เสร็จแล้วก็ให้วิ่งไปหาไอ้อ้วนร้อง "เอี้ยๆๆๆๆๆๆๆ" ร้องซะเสียงแหบเลย กลัวโดนทานครับ แล้วไงต่อไม่รู้ ตัดมาอีกทีที่จำได้ก็ฐานพรางหน้าดำ ก็ไม่มีอะไรนะ เหมือนกับแป้งแหละ แค่สีดำเฉยๆ เพราะมันไม่เหนียว ทาแล้วเย็นหน้าด้วย PMM ก็ทำตามที่ครูฝึกบอกคือ โหนกแก้ม หน้าผาก คาง สันจมูก และบริเวณอื่นๆที่คิดว่าจะมีการสะท้อนแสงได้

ลืมเล่าไปอย่าง คือในตอนที่ทดสอบกำลังใจ ก็มีโรงเรียนที่ไม่ได้ฝึกที่นี่ ต้องมาโดดหอด้วย และเสียตัง 100 บาท แต่ PMM ไม่ได้โดดเหมือนกัน แต่มาก็ปีสองแล้ว เลยไม่เป็นไร ย้ายมาจากศูนย์จังหวัดอื่น ขี้เกียจเล่าเดี๋ยวยาว

เสร็จแล้วก็ไปหอบข้าวของที่ไปกองไว้ตอนแรก ตอนนี้น่าจะซักหาโมง ไม่มีนาฬิกา หอบไปที่ค่ายเขาขาดของจริง(ที่อยู่ตอนแรกคือศูนย์ฝึกกำลังสำรองเฉยๆ) เดินเหนื่อยเหมือนกันแหะ เพราะของมันหนัก เดินไปถึงเห็นเต้นท์ เพื่อนบอกเหมือนเขาชนไก่เลย ก็น่าจะจริงนะ เพราะก็เคยเห็นรูปมาเหมือนกัน และครูฝึกบอกให้เรียกสถานที่นี้ว่ากองร้อย

แล้วก็จัดที่นอน ครูฝึกเลือกบัดดี้ แต่ก็มาแลกกันเองตอนหลังอยู่ดี โอเคผ่าน

แล้วก็ได้เวลาทานข้าวเย็นครับ จำไม่ได้ว่าให้กินไร รู้แต่อร่อยดี เพราะมันหิว ตอนไปเอาข้าว ให้จากนั้นก็ไปล้างจาน วิธีล้างยิ่งกว่าอยู่วัด คือเอาถาดหลุมไปใส่น้ำก่อน แล้วก็ซัลไลแบบรวม คือถังใบเดียว ใส่น้ำเติมซันไล แล้วก็รุมกันขัด และไม่เคยเปลี่ยนน้ำ จากนั้นก็ไปน้ำสะอาดสามครั้ง เอาไปตาก จบ แล้วก็บอกให้ไปเติมน้ำในกระติกไว้ด้วยกันหิว ก็เติมๆไป กระติกก็ดื้อจริงๆ เอนนิดก็กระฉอกซะละ

ต่อไปก็เรียกรวม ให้นั่งฟังเรื่องการรักชาติ ประวัติศาสตร์ชาติไทย และการเสียดินแถน ตอบจบฉายตัวอย่างหนังบางระจันให้ดูแบบต่อเนื่องอีก พอเครื่องฉายเริ่มฉายและปิดไฟ PMM ก็หลับทันที ตื่นมาอีกทีคือได้ยินเสียงเพื่อนลุก จากนั้นครูฝึกบอกจะพาไปสักการะศาลเจ้าพ่อเขาขาด แล้วเราก็เดินเข้าไปในเงามืดของป่าหน้าเต้นท์ ไปโผล่อีกทีที่ถนนหิน แล้วก็ขึ้นไปถึงที่บริเวณแล้ว ให้คุกเข่า แล้วครูฝึกบอกว่า ชาวบ้านและทหารแถวนี้ จะมาเซ่นไหว้ประจำ แต่เราเป็นนักเรียนไม่มีอะไรมาเส้น ให้เซ่นด้วยการ P.E. อ้าว วิดพื้นสลับเท้าท่าเตรียม 300 ครั้ง เพื่อเป็นการเซ่นไหว้ โหะๆๆๆ เอ้า 1 2 3 4... 5..... เลิกละ หมดแรงขา แล้วก็ยังบอกอีกว่า ศรัทธามาก ทำมาก ถ้าไม่พอ ให้กลับไปทำต่อหน้าเต้นท์ก็ได้ แบบนี้ PMM ไม่ไหว หึหึ

เสร็จจากตรงนั้นก็กลับมาที่กองร้อย กลับมาถึงปิติยินดีมากๆ ร้านค้าอะไรต่างๆนาๆ มากันอย่างมากมาย เปิดเพลงดังสนั่น ก่อนไปจู่โจมร้านค้าก็ไปรวมแถวก่อน คุยเรื่องกำหนดการบอกให้นอนสี่ทุ่มครึ่ง และเรื่องการเข้าเวรตอนดึกให้ไปดูที่บอร์ดหน้ากองร้อย จากนั้นะปล่อยให้พักก่อน และเหล่า นศท. ก็บุกถล่มร้านค้ากันเต็มเหนี่ยว มาม่าเอย ข้าวเหนียวหมูปิ้ง น้ำต่างๆนาๆ เฉาก๊วย เก็กฮวยมากันหมด เหมือนตลาดนัดเลย ขยันทำมาหากินจริงๆ พวกแม่บ้านทหาร จากนั้นก็เป่านกหวีดเรียกรวม แล้วก็ปล่อยไปเต้นท์ ตอกสมอบกให้เรียบร้อย ปูผ้าใบรองนอน ตามที่ดูมา PMM กับบัดดี้ได้เฝ้าหลังเต้นท์ตอนตีสามถึงตีสี่ ไม่รู้แหละ นอนก่อน เดี๋ยวรอให้เวรก่อนหน้ามันมาปลุกเอา

ได้เวลาเฝ้ายามละ PMM ให้บัดดี้ไปเฝ้าก่อน เพราะสายเก่งกับเข็มขัดมันเป็นยังไงไม่รู้ นั่งจัดไปจัดมาครั่งชั่วโมง จากนั้น PMM ก็เดินไปแปรงฟัน สรุปคือวันนั้นแปรงฟันรอบเดียว เลยกลายเป็น PMM กินแรงต้องขออภัยมา ณ ที่บล๊อคนี้ด้วย เสร็จเวรก็ไปนอน ตื่นมาอีกทีโคตรเท่หฺ์เลย มีเสียงแตรด้วย แต่ใช้ลำโพงเปิด ดังพอได้ยินให้ตื่นได้ ตื่นมา PMM ยังงัวเงียอยู่ แต่บัดดี้ไวมาก พับผ้าปูรองนอนเสร็จแล้ว PMM กินแรงอีกตามเคย

และแล้วการฝึกทหารของจริงก็เริ่มขึ้น ตื่นเช้ามาให้ไปลงชื่อว่ามาเรียนจริงๆ ใช้เวลาประมาณชั่วโมง และทำความสะอาดที่พักอีกชั่วโมง พระอาทิตย์เริ่มขึ้นมาได้หน่อยแล้ว ทหารก็บอกให้ไปออกกำลังกายสามรอบ เอ้า วิ่งไป ลากตัวเองไปให้ได้ เฮอๆๆ เหนื่อยจริง คนไม่แข็งแรงมาวิ่ง จากนั้นก็ไปเอาอาหารเช้า และมีข้อตกลงกันว่าทำได้สองอย่าง คือวิ่งกับคลาน คลานบางทีก็ให้เทข้าวทิ้งอีก เอาแล้วไง เอ้า ฝืนๆๆ PMM ลากเท้าที่ไม่มีแรงตั้งแต่เมื่อวานวิ่งไปให้ได้ เพื่อข้าวเช้า รู้สึกจะเป็นต้มจืดมะละกับเศษหมูสับราดข้าวเปล่าแล้วเอาน้ำปลาพริกป่นโรย เออ อร่อยๆ เค็มๆๆ

เมื่อกินเสร็จก็เหมือนเมื่อวานตอนเย็น เอาไปล้าง เสร็จ ข้าม ผ่าน จากนั้นไปรวมตามกองร้อยเช็คยอด แล้วบอกให้พรางหน้าใหม่ด้วย พอดีเลยที่ PMM เช็ดออกหมดแล้วเหงื่อมันเยอะ แถมให้แบกเป้ด้วย และจะให้ขนเป้ไป"เขาเรดาร์" เป็นจุดหมายของการเดินทางไกล ซึ่ง PMM ขนของมาเยอะมากๆ ไม่รู้จะเอามาทำห่าอะไรไม่ได้ใช้ซักอย่าง หนักประมาณห้ากิโลมั้ง เดาๆ เสร็จแล้วพาเดินไปเรียนภาคทฤษฎีพร้อมเป้ทหารหนักๆนั่นด้วย เรียนเรื่องการจัดแถว การเข้าที่กำบังอะไรต่างๆ ทั้งหมดตั้งแต่เช้าจนเกือบเที่ยง ไอ้นั่งเรียนเนี่ย และ PMM หลับๆตื่นๆตลอดงาน เรียนไม่รู้เรื่องหรอก มีพักช่วงเช้าด้วย หลังจากเรียนอันแรกเสร็จก็มีรถมาขายน้ำกับลูกชิ้นไก่ย่างเคลื่อนที่ คนขายตะโกนว่า "กองทัพเดินด้วยท้อง อิ่มไว้ก่อนเป็นดี" อยู่ทุกๆ 5 นาที แต่ PMM อิ่มข้าวเปล่ากับมะละและเศษหมูตอนเช้าอยู่เลย จึงไม่ได้ซื้ออะไร -ขี้เกียจขี้ เสร็จจากตรงนั้นก็ไปฐานทำกับข้าวในป่า ก็พากันจุดไฟ หุงข้าว หุงเสร็จแบ่งกันกินอีก โอยๆๆ ไม่ไหวแ้ล้ว ข้ามเลย เสร็จจากฐานสอนทำกับข้าวก็เดินกลับไปที่กองร้อย ทานข้าวซะ ไม่เล่าแล้วนะเหตุการณ์ซ้ำ เติมน้ำในกระติกเรียบร้อย


ก็... แดดออกก่อนเดิมทางไกลซะงั้น แทบร้องไห้แต่น้ำตามันไม่ไหล ก่อนไปครูฝึกแจกมาม่ากับปลาป๋องและข้าวสารแห้งมา แล้วให้ลูกหมู่ช่วยๆกันถือแบ่งกันเอา ผมคนสุดท้ายเลยได้ถือมาม่าต้มยำกุ้งสองห่อ ยัดใส่เป้ซะ แจกเสร็จแล้วครูฝึกบอกให้ไปเอายางมาอีก ไม่รู้เอาไปทำไม(จากลับมาบ้านแล้วยังไม่รู้เลย) PMM ดันโง่เลือกยากเส้นใหญ่ทั้งๆที่ไปถึงจุดแย่งยางก่อน ต้องขอโทษเพื่อนๆในหมู่ด้วยแถมครูฝึกบังคับให้ถือปืนอีกห้ามสะพาย เจอมีเรื่อง... ตอนแรก PMM แบกยางไปก่อน ขึ้นเขาไป ไอ้กระติกน้ำกับสายเก่งก็เหลือเกิน หลุดอยู่นั่น ทำให้ต้องให้เพื่อนถือนำไปก่อนแล้ว PMM วิ่งตามไป แต่กระเป๋าที่หนักเวอร์ ทำให้ PMM หมดแรงลงเร็วมาก ไปได้ 1/6 ของเส้นทางทั้งหมดก็ขาลากแล้ว อีกทั้งทางตอนแรกก็เป็นเขาด้วย ขึ้นเขาลงเขาปีนเขาอยู่นั่น และมาโผล่อีกทีที่ศูนย์ฝึก นศท. ที่เรียนอยู่ประจำ เล่นเอาเซ็งเลยเพราะเดินขึ้นเขาซะเหนื่อย เสร็จจากตรงนั้นก็เป็นหอโดด ซึ่งครูฝึกเป่าสัญญาณนกหวีด ปี้ดๆๆๆ บอกว่าแบบนี้คือเครื่่องบินข้าศึกเข้าโจมตี ให้หาที่กำบังตามที่เรียนมาตอนเช้า และก็ได้ยินตอนเดินจนได้ PMM ก็ล้มลงพื้นไปเลย เสร็จแล้วเดินต่อไปถึงสนามบิน run-way ยาวไกลมากๆ แต่ก็พยายามลากขาไปให้ได้ ถึงสนามบินนี่ยังแค่ 1/3 เองมั้ง ไกลจริงๆนะ เสร็จจากสนามบินก็ขึ้นไปที่เขาเรดาร์ ทางโหดน่าดูชมเลย แต่ก่อนจะขึ้น มารถมาขายน้ำพร้อมโต๊ะแลกคูปอง ก่อนขณะที่ PMM กำลังแลกคูปองก็เจอครูฝึกทำท่าจะทานเอา บอกให้ไปพรางหน้าใหม่แล้วจะรอด PMM ยืนงงอยู่นาน เพราะใครๆก็หน้าไม่ดำมาก ไม่กล้าไปแย่งเอาเดี๋ยวเพื้อนซวย จนต้องให้ครูฝึกคนนั้นมาชี้เอาว่าจะให้ใครมาลอกหน้าใส่ PMM ตอนนั้น PMM ทำหน้า น่าสงสารสุดๆ เพราะมันเหนื่อยด้วย ครูฝึกสงสารมั้ง เลยมาชี้เอาเพื่อนหน้าดำๆให้ลอกสี

หลังจากที่ดื่มน้ำซื้อน้ำเสร็จแล้ว ก็เริ่มเดินขึ้นเขาเรดาร์ ระหว่างทางพบเหตุการณ์ต่างๆมากมาย เช่น หัวหน้าหมู่ โซโล่แบกห่วงยางคนเดียว เพื่อนๆทิ้งไว้ให้ซะงั้น ผมก็ไปช่วยถือนิดนึงแล้วก็เดินไม่ไหว แต่เสี่ยแกโหด ถือขึ้นไปจนถึงยอดเขาก่อนเลย ถือคนเดียวด้วย แล้วยางนั้นเป็นยางรถ รถจริงๆ ลองคิดสภาพแล้วกัน จากนั้น PMM ก็ค่อยๆลากขากับเท้าขึ้นไป ในตอนนั้นเท้า PMM รับไม่ไหวแล้ว แสบบบบ สุดๆ สงสัยน้ำในเท้าคงระเบิดไปแล้วเรียบร้อย เพราะมันลงหนัก และรองเท้า รด. ไม่ใช่ขำๆด้วย เหนื่อยสุดๆ ดีที่ระหว่างทางมีครูฝึกใจดีเดินเป็นเพื่อน และก็หาเพื่อนคุยต่างโรงเรียนไปเรื่อย โค้งแรกผ่านไป อ้ากกกก ปวดท้องงง ยืนพักแปป และค่อยๆลากขาเดินต่อ อยู่ที่ตีนเขาก็มีแต่พวกถือล้อ พวกที่ไม่ถือมันก็ไปถึงกันหมดแล้ว ไม่ไหวจริงๆไม่ช่วยเพื่อนเลยคนเรา จนในที่สุด PMM ก็เดินไปถึงยอดเขา ความเหนื่อยไม่ต้องพูดถึง ไม่สามารถบรรยายเป็นตัวหนังสือได้เลยงั้นอย่าเสียเวลา จากนั้น PMM ไปนอนพักดื่มน้ำจนหมดกระติก เพราะนึกว่ามันจบกันแค่นี้.......

ที่ไหนได้ พอถึงยอดเขาเรดาร์แล้ว ต้องเดินลงไปในป่าต่ออีก ตายห๊ะ PMM น้ำหมดกระติกไปแล้ว ไม่เป็นไรค่อยๆก้าวไปทีละก้าวๆ แล้วก็ถึงบันได ซึ่งตอนนี้เพื่อนของ PMM และพวกที่อยู่หมวดเดียวกันเดินหายไปหมดแล้ว เหลือแต่เพื่อนที่เริ่มออกเดินทีหลัง ต่างโรงเรียน จนไปถึงจุดหนึงเป็นทางลงเขายาว PMM ยืนพัก โชคดีที่มีเพื่อนต่างโรงเรียนเอาถุงเกลือแร่ให้ แต่ PMM บอกว่าไม่มีน้ำ คนนั้นก็ใจดี ลงทุนแทน้ำของตัวเองให้ PMM เลย OMFG!! สุดยอดจริงๆ ถ้าเด็กในเมืองคนไม่มีแบบนี้แน่ๆ PMM ซาบซึ้งยืนน้ำตาไหลอยู่พักนึง ก็ฉีกถุงเกลือแร่ลงกระติกเขย่าๆและดื่มไปสองอึก จากนั้นไม่นานครูฝึกคนที่พาเดินมาก็บอกว่าอีกไกล อย่ากินหมด ก็เลยเก็บไว้ และเดินลงต่อไป
*PMM ซึ้งจริงๆ เก็บกลับบ้านมาถ่ายรูปไว้ด้วย(ซ้าย)

ในขณะที่เดินลง ขา PMM สั่นแบบเกิดมาไม่เคยเป็นมาก่อน เรียกว่าสุดๆไปเลย ระหว่างลง ครูฝึกเลยจะถือปืนให้ ซึ่งผมก็ต้องรับน้ำใจไว้ก่อนดีที่สุด และคิดว่าถ้าถือปืนไป ต้องหัวทิ่มแน่ๆ ทางลงก็ชันซะ และในที่สุด PMM ลงไปถึงจุดพักเป็นคนสุดท้ายของหมวด และยังไม่ทันจะได้พักก็ต้องเดินต่อแล้ว เพราะมาช้า ต่อไปนี้คือช่วงทำอาหารและตั้งทำการรบตอนกลางคืน




เริ่มต้นคือ เดินไปในทางเก่าที่เดิมไปศาลเจ้าพ่อเขาขาด แต่ไปเลี้ยวอีกแยก เข้าไปในป่า แล้วก็มีคนสั่งให้นอนตามจุดต่างๆ ระหว่างทางก็เจอคนหลับไปตามทาง เมื่อ PMM ได้จุดของตัวเองแล้ว ก็งีบซะหน่อย ยังไม่ทันจะหลับดี เพื่อนบอกให้ไปทำอาหาร แต่ PMM ลุกไม่ขึ้นเสียแล้ว เพื่อนคนข้างๆเลยไปแทน จากนั้นก็มีคนมานอนแทนคนที่ไปทำอาหาร แล้วมันก็นอนคุยกันสามคน โดยที่มี PMM หลับอยู่ตรงกลาง ตื่นมาอีกทีได้ยินเสียง "กุหิวข้าวว" ลืมตามาเจอเพื่อนนั่งคุยกันตอน PMM เริ่มหลับยังคุยกันไม่เสร็จ (หลับจริงๆเลยนะ แบบถ้าเพื่อนไปเราก็ไม่รู้หรอก โดนทิ้ง โชคดีที่ยังตื่นขึ้นมาก่อน) จากนั้น PMM พยายามจะลุก แต่ลุกไม่ขึ้นแล้ว เลยนอนพักสายตาไปก่อน ก็นั่งคุยกันไปเรื่อย ส่วน PMM นอน และบ่นกันมากว่าหิวข้าว เสร็จแล้วก็มีคนมาเดินมาบอกว่าอาหารได้แล้ว ก็เลยพากันไปกิน ทิ้งให้ PMM ค่อยๆคลานกว่าจะลุกได้ เมื่อ PMM ไปถึงก็กินกันจะหมดแล้ว โชคยังดีที่คว้าปลาป๋องมาได้ครึ่งตัว มาม่าได้1/6ซองเปียก พอประทังชีวิตไปได้ จริงๆว่าจะโวยวายแล้วเพราะได้กินน้อย แต่ไอ้เราก็กินแรง ไม่ได้มาช่วยเขาทำอาหารเลย ก็เลยเลยตามเลย เสร็จจากทานข้าวเย็นฝีมือหัวหน้าหมู่แล้ว ดันเจอหัวหน้าหมวดเป็นลมเนื่องจากรักเพื่อนมากไป มัวแต่ไปจุดไฟนั่งดมควันและไม่กินข้าวเป็นลมไปในที่สุด ไม่รู้จัดการกันยังไงจำไม่ได้ละ จากนั้นก็ไปที่จุดเดิมที่ PMM หลับ เพื่อรอข้าศึุก ซึ่งเป็นการรบในเวลากลางคืน พอ PMM หัวถึงแขน(หมอบ)ปุ๊ปก็หลับเลย ดีที่คนข้างๆคอยปลุก ระหว่างนอนเหมือนในสงครามมากๆ มีเสียงระเบิด(ประทัด) ปืน(กระสุนblank) ด้วย ได้อารมณ์จริงๆ เสร็จแล้วก็ลากสังขารตัวเองเดินทางต่อไปที่สนามบิน เพื่อเขาฐานกลางคืน ฐานแรกเป็นการฟังเสียงและดูแสง ก็มีเสียงอะไรมาให้ดู แล้วถามเด็กว่าเสียงอะไร PMM ไม่รู้เรื่อง นั่งหลับ(ไว้ให้คนอื่นเล่าแล้วจะเอามาอัพเดท) เสร็จจากตรงนั้นก็เป็นการเคลื่อนที่ในเวลากลางคืน บอกว่าต้องยกเท้าสูงๆและค่อยๆก้าว 20เมตร 10 นาทีอะไรแบบนั้น ซึ่งฐานนี้ PMM หลับไม่ได้เลยได้เล่า เสร็จจากเดินยกเท้าสูง(แทบหมดแรงล้ม) ก็คลานท่าหมาต่อ โดยห้ามมีเสียง ค่อยๆคลานไป คลานเสร็จหมอบ รอฟังสัญญาณและโผ ปี๊ดดดดดดดดด!! เอี้ยยยยยยยยๆๆๆๆๆๆ ปังๆๆๆๆๆๆๆๆ ด ยิงแม่งตายให้หมด เสร็จแล้วไปนั่งรอเพื่อนที่ทำทีหลัง นั่งกับเพื่อนที่ทำไปก่อน PMM ก็นั่งหลับต่อ เสร็จแล้วก็เดินกลับกองร้อย กลับมาเจอตลาดนัดกลางป่าอีกแล้ว แต่ยังไม่ให้ใช้ ต้องเข้าแถวก่อน โอเคพูดเรื่องให้นอนกี่โมง ใช้เวลาแปปนึง แล้วก็ปล่อย PMM รีบวิ่งไปซื้อน้ำเฉาก๊วยเพราะเห็นเพื่อนกินเมื่อคืน แต่ไปแล้วไม่มีตังทอน เลยได้ซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งที่มาในรูปแบบข้าวต้มมัดใส่ถุงพลาสติก รวมกันได้ 10 บาทพอดี ชดเชยกับอาหารที่กินไปเพียงน้อยนิืด จากนั้นก็เข้าแถวรวม นอน จบวัน PMMกับคนที่นอนด้วย ได้หน้าคลังอาวุธตอนตี4 ก่อนนอนครูฝึกบอกว่าให้ไปเอาผ้าห่มมาด้วย ถ้าตื่นมาไม่เจอผ้าห่มแขวนโดน..

ตื่นมางัวเงีย คาดเข็มขัดสนามกับสายเก่ง แต่สายเก่งไม่ใส่ดีกว่า ยัดใส่เป้ซะ แล้วก็เดินหิ้วปืนไปยืนเก็กแมนอยู่หน้าคลังอาวุธ (ยืนหลับ)ตอนเข้าเวรไม่ได้แปรงฟันเพราะกลัวครูฝึกมารับประทาน เฝ้าจนถึง 5.30 (กะสุดท้ายเลย) แล้วก็กลับเข้าเต้นท์ไป และแล้ววันสุดท้ายของค่ายนรกเขาขาดก็มาถึงซะที(ไว้เจอกันปีหน้า) โดยเริ่มมาครูฝึกให้รวมปืนไปไว้แถวกลางของหมวด แล้วให้แบกกลับ(น่าสงสารมาก มันไกล)จากนั้นแบ่งคนไปทำความสะอาดตามที่ต่างๆ ระหว่างฝึกครูฝึกบ่นใหญ่ บอกพับผ้าห่มไม่เป็น หมวดของ PMM ทั้งหมวดได้อะไรที่สบายๆ ก็เลยไปยืนเม้าท์แตกกันอยู่ในป่า รอฟังสัญญาณรวม และนั่งรอพวกขนปืนกลับมา เสร็จแล้วพาไปออกกำลังตอนเช้า วิ่งๆๆๆ เสร็จเข้าแถว PMM คันนิ้วเลยเกา เสร็จหมวดเลยซวยเลย เพราะได้ยินบอกอะไรไอ้อ้วนยกศอกๆ ต้องใช่ PMM แน่ๆ ต้องขออภัยอีกแล้ว หึหึ โดนรับประทานเลย เฮอๆๆเหนื่อยๆ เสร็จจากนั้นก็ไปยกข้าว แต่วันนี้มาแปลกหน่อย บอกว่า คนมีระดับต้องยืนกิน เอ้า ยืนก็ยืน ชิลๆอยู่แล้วชีวิตไม่มีอะไรจะเสีย เสร็จแล้วเอาถาดไปล้างแบบเก่า แล้วก็รอปล่อยตัวกลับบ้าน ก่อนกลับให้ฟัง ผบ. มาบ่นๆๆก่อน บ่นเสร็จแล้วก็แยกย้ายกลับ โดยผมกลับกับเสี่ยที่ขนยางคนเดียวตอนขึ้นเขานั่นแหละ แล้วก็ต่อรถกลับบ้าน กลับมาถึงเจอน้ำในนิ้วก้อยเท้าด้วย ฮ่าๆๆๆ จบ

ก็ไม่เข้าใจว่ารอดว่าได้ยังไง ว่าจะหยุดเดินตั้งแต่ตอนถึงสนามบินแล้ว แต่มันเหมือนมีบางอย่างกระตุ้น ทั้งครูฝึกเอง และเพื่อนๆ ที่คอยให้กำลังใจตอนเดินผ่านไปอยู่นั่นแหละ ทำให้ผมเดินจนถึงยอดเขา และกลับลงมาอย่างปลอดภัยได้ครับ

ข้อสังเกตุ:
  • ที่เล่าไปทั้งหมดไม่มีเรื่องอาบน้ำเลย เพราะถ้าอาบจะโดนทานครับ ฝ่าฝืนคำสั่ง
  • มาถึงบ้าน ด้วยที่ไม่ได้อาบน้ำเลย ถุงเท้า PMM แข็งเป็นไม้ ถึงจะซักแล้วก็ตาม


สรุป
ของที่เอาไป
  • ถุงนอน(ไม่ได้ใช้)
  • เครื่องอาบน้ำ+ล้างหน้า(ไม่ได้ใช้)
  • ยาสีฟัน(สองครั้ง)
  • ชุดลำลอง(ไม่ได้ใช้)
  • เสื้อยืดเขียวขี้ม้า(ไม่ได้ใช้)
  • สมุดปากกา(ไม่ได้ใช้)
  • ทิชชู่(โดนให้เอาทิ้ง)
ไม่รู้จะแบกอะไรไปนักหนา แถมต้องเอาขึ้นเขาลงห้วยอีก แทบคลั่ง

ปล.เข้ารอบเดียวกันทักทายไว้ด้วยเด้อ~ เล่าสู่กันฟังๆ
ปล2.รูปภาพประกอบไม่มี ไม่ได้เอาอุปกรณ์บันทึกภาพไป ไว้จะ sketch ห่วยๆสแกนลงแทนละกัน
ปล3.คนที่เข้ามาอ่านจนจบ เม้นท์ทักท้ายกันไว้ด้วยก็ดีนะครับ
ปล4.รายละเอียดจริงๆมาเยอะกว่านี้แต่จำได้ไม่หมด
ปล5.ถ้าเม้นท์ไม่เป็นให้กด ที่นี่ เพื่อดูว่าทำยังไง (ขี้เกียจตามสอน)

ปีนึงผ่านไปไวเหมือนโกหก ค่ายปีสามอ่านได้ที่นี่