วันอังคาร, กันยายน 30, 2551

PMM เรียน Economy ที่โรงเรียน



รู้ๆกันอยู่ว่าวิชา Economy(เศรษฐศาสตร์) มีความจำเป็นมากๆๆๆ ในการที่จะดำรงชีวิตต่อไป เพราะจะทำให้เรารู้หลายๆด้าน เช่นการกำหนดราคา กลุ่มเป้าหมาย ฯลฯ

แต่ปัญหามันมีอยู่ว่า อาจารย์ที่สอนที่ชื่อ Anthony Hall(icopter)
-อ้างชื่อไปเลยละกัน เค้าแรงจริง

แกสอนได้สุดยอดมากๆครับ โดยหลังการสอนของแกนั้นง่ายมาก จากการวิเคราะห์ของผม แกใช้หนังสือ Economics for Dummies

เพราะเห็นแกเดินหน้าเครียดๆถือไปถือมา และอีกคำพูดที่เขาเคยคุยให้ผมฟังว่า วิชานี้มีแต่คำศัพท์ยากๆ ทำให้นักเรียนเสียสมาธิในการเรียน จากครูไปคนข้างๆแทน(ผมเรียนเป็นภาษาอังกฤษน่ะครับ) แกเลยไปนั่งพิมพ์ในภาษาแบบวัยรุ่นๆของแกเอง ซึ่งหน้าๆนึง สำหรับผมจะมีคำที่ไม่เข้าใจซักสามคำเท่านั้น แต่มันก็แค่รู้คำแปล ไม่ใช่ เข้าใจบทเรียนนี่นา
วิธีการสอนของแกง่ายมากๆครับ คือตอนเปิดเทอมมาแกแจกแฟ้มพร้อมสันชนิดสอดๆถอดๆใส่ๆได้ และทุกๆ ชั่วโมงที่เรียน จะได้กระดาษมายัดใส่แฟ้มไว้ คลาสนึงประมาณสองแผ่น วิธีที่แกสอนก็คือ สอนด้วยการอ่านกระดาษของแก(อันเดียวกับที่แจกเด็ก) และอธิบายบน blackboard (ที่ไม่ใช้ white เพราะแกบอกเหม็น อีกอย่างทำเสียงเสียวๆไม่ได้้ด้วย)นานๆจะถามทีนึงครับ และวันดีคืนดี แกก็จะบอกว่าจะมีสอบเก็บคะแนนในคาบต่อไป ซึ่งเป็นที่น่า...... ตกใจเหรอ ป่าวเลย พวกผมและผองเพื่อนไม่เคยตกใจให้กับเรื่องเกี่ยวกับคะแนน ฮ่าๆ อยากที่ผมบอกไป เพราะช่องที่เขียนคำตอบแกก็ให้มาเป็นหน้าๆเหมือนกัน
เพราะแกน่ะใจดีมากๆครับ ให้ open book ด้วย ไม่ใช่ book ดิ่ sheets ข้อสอบแกก็เลยไม่ยากเท่าไหร่ เพราะมีคำตอบในกระดาษที่แจกมาหมดแล้วครับ ถ้าใครรักษาของดีๆก็จะได้คะแนนแบบชิลๆ แต่บางทีข้อสอบแกก็มาแบบงงๆด้วยครับ เช่นถามกว้างๆ แล้วให้เราสรุปตอบ ถ้าอ่านไม่เข้าใจเรื่อง ก็ต้องลอกไปหมดทั้งย่อหน้าเลย อะไรแบบนั้น (สอบเสร็จแล้วก็จะไปตรวจและแจกคืนเอาไปหนีบไว้ตามภาพ)

ตอนนี้หลายท่านอาจสงสัย ว่าตอนสอบจริงๆ ที่สอบในห้องสอบจะเป็นยังไง ไม่ต้องกังวลครับ ทั้งสอบ mid term และ final ก็ open sheets กันหมดเลย ปัญหาจริงๆอยู่ที่ O-Net มากกว่า ฮ่าๆ

หลังจากได้เรียน ได้สอบกันไปแล้ว ทีนี้ผลตอบรับนักเรียนเป็นยังไงมั่ง คือ เรื่องมันเป็นแบบนี้ครับ
  • ในระหว่างคาบเรียน จะมีคนนั่งโม้กัน 50%
  • ในระหว่างคาบเรียน จะมีคนเล่น PSP ถึง 20%
  • ในระหว่างคาบเรียนอีก 10% นั่งฟัง mp3 ดู mp4 ยิง mp5 ว่าไป
  • และอีก 15% นอนหลับลงไปบนโต๊ะ (เดาเอาว่าพยายามจะเรียนแต่วิชาพาง่วง)
  • 5% ที่เหลือน่ะเหรอ.... นั่งแต่งหน้าครับ
  • เรียน 0% ฮ่าๆ
ใจจริงผมอยากจะเรียนม๊ากมาก เพราะวิชานี้เหมือนจะมีประโยชน์กว่าวิชาหลักอื่นๆด้วยซ้ำ (ยกเว้่น art กับ P.E. และวิชาอังกฤษ) เพราะเป็นอะไรที่เรียนแล้ว เอาไปใช้ได้จริงๆ แน่นอน หลายท่านที่อ่านอยู่อาจจะบอก เลขก็สำคัญ วิทย์ก็สำคัญ แต่สำหรับผมมันไม่ใช่สิครับ เพราะผมเข้าใจแค่ว่า เรียนไปก็ได้แค่สอบเท่านั้นแหละ อีกอย่างสองตัวนี้ไม่เคยชอบอยู่แล้วครับ เรียนไปมันเปลือง Harddisk ครับ แต่ก็นะ ด้วยวิธีการสอนของแก ที่อ่านกระดาษและเขียนกระดาน(บางทีก็บังคับให้จด) นานๆจะว๊ากแบบเร็กโตแว๊กที ตอนที่เป็นช่วงใกล้สอบนั่นแหละ(ดูความหวังดีสิ) ว๊ากทีก็สะดึ้งตื่น แล้วก็นั่งเรียน เรียน เรียน ฟัง ฟัง ฟัง ...หลับ.. ผมว่าสาเหตุของการหลับแบบประหลาดของนักเรียนทั้งหลายที่เรียนกับแกก็คือ แกไม่เคย interactive อ่า... ปฎิสัมพันธ์กับนักเรียนเลย แบบว่า ตั้งหน้าตั้งตาสอนๆๆ อย่างเดียว เด็กนั่งเล่น psp ยังไม่ว่าเลย บางวันผมเอากีต้าไปนั่งปั่นในห้องแกก็ไม่ว่า แถมยังถามอีกว่าตะกี้เพลงไร แถมเสียงพูดก็เบา แข่งกับพวกที่นั่งโม้กันได้ซะที่ไหนเล่า ใจจริงผมว่าจะซื้อกล่องดำให้แกปีใหม่แล้ว เผื่อนักเรียนจะมีความรู้ค้างอยู่บ้าง ไม่ใช่ฟังทะลุหูจนหลับ

อาจารย์ท่านนี้แกเป็นคนชอบดูนกม๊ากมากครับ ชอบเป็นชีวิตจิตใจ ผมเคยขนหนังสือ shutter photography ไปทายชื่อนกแก ยังตอบได้หมดเลย แกเคยเป็นผู้ก่อตั้งชมรม(ร้าง) ชื่อ Bird Watching ด้วย เท่ห์ซะ แต่ก็นะ มันร้างอ่า

น่าจะพอได้แล้วสำหรับ blog นี้ เดี๋ยวจะมีคนมาว๊ากเอา ว่าเขียนบ้าไรอ่านไม่เข้าใจ กระแดะใช้ภาษาอังกฤษ

ไม่มีความคิดเห็น: