วันอังคาร, กันยายน 30, 2551

PMM เรียน Science ที่โรงเรียน


"วิชาวิทยาศาสตร์เป็นอะไรที่เข้าใจยาก สับสน ซับซ้อน และโหดร้ายมากๆ เวลาครูให้การบ้าน ยิ่งตอนสอบแล้วก็ เหมือนตกนรกยังไงยังงั้น เกรดก็ได้น้อย พ่อแม่ต้องไม่พอใจแน่ๆ แล้ว GPA จะทำยังไงเนี่ย"


เมื่อถามถึงวิชาวิทยาศาสตร์ หลายๆท่านอาจจะบอกแบบนี้ ซึ่งมันก็จริง... ในหลายๆโรงเรียน และในหลายๆชีวิต.. เพื่อการเรียนต่อ แต่ถ้าหากท่านได้อ่านบทความเรื่อง PMM เรียน Economy ที่โรงเรียน ไปแล้ว(ใครยังไม่ได้อ่าน แนะนำให้อ่านซะ) ท่านก็พอจะนึกออกว่า ที่โรงเรียนผมวิชาวิทยาศาสตร์มันเป็นยังไง เรื่องที่ผมกำลังจะเล่าต่อไปนี้ อาจจะเหนือความคาดหมายของท่านที่อ่านอยู่ หรือว่างั้นๆ ก็แล้วแต่ดวงครับ.....

ครูที่สอนมีนามว่า "นันทนา" ครับ นามสกุลอะไรมิอาจทราบได้ เหมือนจะชื่อเล่นว่า "นอร่า" ชื่อเหมือนชาวต่างชาติซะงั้น ทั้งๆที่ชื่อจริงชื่อนันทนา แต่เพื่อนเคยเล่าให้ฟังว่า อาจารย์น่อร่าเกิดอยู่อังกฤษครับ เอ แล้วทำไมชื่อจริงว่านันทนานะ แต่ก็น่าจะจริง เพราะแกพูดไทยไม่ชัด ทั้งนี้ทั้งนั้นพวกผมและผองเพื่อนก็เรียกแกว่า"จารป้า" อยู่ดีนั่นแหละ และแก claim.. อ่า เคยกล่าวไว้ว่าวิชาที่แกสอนเป็นวิชา Planet Earth ครับ ชื่อเหมือนรายการทีวีเลย เรื่องที่แกสอนก็คือพวก ดาราศาสตร์ ประชากรโลก ไม่ก็ โรงงานไฟฟ้าและการปั่นไฟฟ้า และเหมือนช่วงนี้จะสอน Global Warming สภาวะโลกร้อนอะไรพวกนี้ครับ ดูเหมือนจะเป็นวิชาธรรมดาๆ ไม่เห็นมีอะไรเลย สอนเรื่องโลกร้อน ก็ถูกแล้ว ยังยังผมยังเล่าไม่จบ

เรามาดูกันที่วิธีการสอนของแกครับ ตอนเปิดภาคเรียนมาใหม่ๆ ที่เพิ่งเจอจารป้าครั้งแรก เหมือนจะเคร่งมากๆ แต่ด้วยนิสัยของเด็กวัยรุ่น มันเม้าท์แตก เหมือนท่อประปารั่ว คุยกันไม่หยุด แต่แกก็สอนไป และสอนไป พอวันที่สองก็เริ่มมีเพื่อนเล่น PSP กันในคาบเรียนและ แกก็เดินมาด่านะ ต่างกับของ Economy ที่แกไม่พูดซักคำ แล้วแกก็ไป บางวันที่รมณ์บ่จอยก็กระชากสายหูฟัง iPod หลุดไปเลยก็มี ร้ายสุดๆ และแกจะสอนเสียงเบาๆมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แบบว่า นั่นพูดกันต่อหน้าต่อตากันแทบจะไม่ได้ยิน อาจเป็นเพราะเพื่อนมันเม้าท์แตกกันอยู่ก้ได้ แต่ไม่น่าจะเกี่ยวนะ ถ้าใกล้ๆแล้ว อะไรๆก็น่าจะได้ยินชัด จนผมต้องนั่งใกล้จนน้ำลายแกลอยมาโดนหน้านั่นแหละ ถึงจะได้ยิน และด้วยความเสียงเบาของแกมั้ง เลยทำให้นักเรียน(รวมทั้ง PMM)ขี้เกียจจะเรียน


ความสุดยอดของวิชานี้ก็คือ อารมณ์ที่เดือดได้ง่ายๆ เหมือนน้ำมันที่รอการจุดระเบิดมันวิ่งรออยู่ในหัวของแกอยู่แล้ว บางทีคนคุยกันเสียงดัง เล่นเกม ฟังเพลง ถึงขั้นต่อลำโพง แกก็ไม่เคยว่าครับ แต่สัปดาห์ต่อมา แกดันโมโหซะงั้น ผมยังจำเหตุการณ์นั้นได้ดีเลย วันนั้นแกของขึ้น และจับกระเป๋าเพื้อนโยนไป ตุ๊กตาคอขาดเลย เป็น Stitch(จาก Lilo & Stitch: The Series)เสียด้วย ผมอึ้งไปเลยครับ สงสัยเม็นไม่มา อีกเรื่องคือ บางวันเด็กคุยกันเสียงดังจนผมหูแทบหนวก แกก็จะสอนไปแบบที่ไม่มีคนได้ยินแบบนั้น หรือบางวันเพิ่งจะเริ่มต้นคุยกัน(ตอนเริ่มคุยโดยธรรมชาติเสียงจะเบาก่อน) แกก็ไล่พวกนั้นไปหมดเลย GET OUT! GET OUT! และพาไปหาผู้ใหญ่ลี[1] ซึ่งต่อจากนั้นก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแล้ว


อีกตอนหนึ่งก็คือ ช่วงนั้นโรงเรียนมีการแลกเปลี่ยนเด็กจีนกันครับ อาไทยไปจีน เอาจีนมาไทย ในเวลาไม่พร้อมกัน กล่าวคือ เอาคนไทยไปอยู่บ้านจีนก่อน แล้วเด็กจีนพวกนั้นก็มาอยู่บ้านเด็กไทยบ้าง และเป็นคลาสที่เด็กจีนต้องมาเรียนกับนันทนาสอนวิทยาศาสตร์นี่พอดี แล้ววันนั้นจารป้าแกก็กำลังของขึ้นอยู่ สุดท้ายก็ตะเพิดเด็กจีน ที่ฟังภาษาอังกฤษแทบจะไม่ออก(งง) ไปหมดเลย น่าสงสารมาก เพิ่งจะมาแท้ๆก็โดนไล่ละ โดยไม่ได้ทำอะไร

ช่วงสอบ... เอ ผมไม่รู้สึกจะมีความจำตอนสอบ science เลยแหะ สงสัยจะไม่ได้สอบ - -" จำได้ว่าเคยส่งงานไปสองสามครั้ง ช่วงสองเดือนแรกของปี เป็นงานเรื่องสิ่งมีชีวิตที่ฉันเลือก แต่ต่อจากนั้นก็เหมือนไม่ได้เจอกันเลย ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนอื่นๆรู้สึกแบบนี้ป่าว ไปเรียนเหมือนไม่ได้เรียน ไปนั่งโม้กัน ฮ่าๆ

บางทีแกโมโหสุดๆ ถึงกับโทรตาม ผู้ใหญ่ลี[1]มาช่วยคุมเด็กเลยครับ แต่ก็นะ ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย เพราะความสัมพันธ์ระหว่างผู้ใหญ่ลีกับนักเรียนมันยิ่งกว่า ลูกศิษย์กับครูครับ กิ๊กเหรอ ว้ายไม่ใช่ ด้วยฐานะที่เป็นครูใหญ่ เลยไม่ได้สอนหนังสือทำให้นานๆเจอแกที ประกอบกันการที่ผู้ใหญ่ลีเป็นครูใหญ่ใจดีด้วย ทำให้เด็กๆสนิทสนมกับแกมากๆ เพราะแบบนี้ การที่เอาผู้ใหญ่ลีมาช่วยดูแลการสอนก็ไม่เกิดประโยชน์หรือโทษหรืออะไรทั้งนั้นครับ เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นว่างั้น แถมเอาผู้ใหญ่ลีมา ยิ่งทำให้เด็กมีความสุข จะได้คุยเล่นหนุกหนานๆ

ในช่วงหลังๆมานี่ จารป้าแกไม่เคยสอนเลยด้วยซ้ำครับ เอาแต่แจกกระดาษ สงสัยแกคงจะเบื่อมากๆแล้ว เด็กบ้าอะไร มาโรงเรียน ค่าเทอมก็แพง มาก็ไม่เรียน เป็นผม.. ถึงไม่เป็นผม ผมเห็นผมก็เบื่อแล้วแหละ พ่อแม่เสียตังมาให้เรียน จ้างครูสอน ครูเป็นลูกจ้าง นักเรียนเป็นนายจ้าง แต่นายจ้างให้เงินลูกจ้างโดยไม่ให้ลูกจ้างได้ทำงาน ใครที่กำลังจะเป็นครู ผมแนะนำให้มาทำงานที่นี่เลยครับ รับรองสบายจริงๆ ไม่สอนก็ไม่มีคนว่า เหมือนอาจารย์ท่านนึง ซึ่งตอนนี้เป็น บุคคลปกปิด อยู่ ไว้จะเล่าให้ฟังในวันหน้า รอบนี้ PMM ต้องลาไปก่อน ไว้เจอกับใน blog หน้าครับผม



[1]พบกับบทความผู้ใหญ่ลี เร็วๆนี้

ไม่มีความคิดเห็น: